แนวทางศึกษาธุรกิจดิจิทัล ได้ความรู้มาแล้วก็จงลงมือทำ

ได้วิชามาแล้วก็จงลงมือทำ และหมั่นแชร์ความรู้ออกไป – คุณอาจจะเห็นว่ามีวิธีการเรียนรู้หลายวิธี นั่นคืออ่านมาก ดูมาก ฟังมาก ถามจากผู้รู้มากๆ มีสมาธิจดจ่ออยู่กับมันมากๆ แต่ทั้งหมดนี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากคุณได้ความรู้เหล่านั้นแล้วไม่นำมาลงมือกระทำ เพราะมันเหมือนได้ความรู้มา แต่ไม่ได้ลองทำจริง มันก็จะไม่เข้าใจแจ่มแจ้ง และถ้ารู้แล้วทำแล้ว แต่ไม่แชร์กับใครเลย อันนี้ก็อันตราย เพราะถ้าคุณรู้อยู่คนเดียว คุณก็จะเก่งคนเดียว งานที่ได้ก็จะออกมาแบบร่องแร่งแบบเท่าที่ควร ซึ่งถ้าหากว่างานออกมาไม่ดี ก็แทบไม่มีราคาอะไรเลยที่พยายามไปศึกษาวิทยายุทธ์จากยอดเขาต่างๆ

การดูแลบัวก้านในช่วงเดือนเย็น

ในปัจจุบันนี้มีผู้นิยมเลือกซื้อ"บัว" มาปลูกเลี้ยงประดับบ้านกันเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว บัวเหล่านั้นมักจะแห้งและตาย ไปในที่สุด ในเรื่องนี้ ดร.เสริมลาภ วสุวัต มือเก๋าบัวแห่งประเทศไทย จึงขอชี้แนะกระบวนการปลูกเลี้ยงบัวประดับในช่วงฤดูหนาวว่า ในช่วงนี้ตามปกติบัว และไม้น้ำหลายชนิด จะพักการเจริญเติบโต โดยสลัดใบทิ้ง อาหารที่สะสมไว้จะเปลี่ยนสภาพ จากน้ำตาลเป็นแป้ง เพื่อเก็บไว้ในต้น หน่อหรือเหง้า เมื่อหมดฤดูหนาวจะนำอาหารที่สะสมไว้ มาใช้เพื่อการเติบใหญ่ใหม่อีกครั้ง

การสลัดใบของบัว จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพสมดุลในน้ำ ตามปกติเมื่อบัว มีการเจริญเต็มที่และมีใบที่สมบูรณ์ ในช่วงตอนกลางวัน ใบจะปรุงอาหารและระบายออกซิเจนลงในน้ำ ทำให้น้ำสะอาดและเกิดดุลภาค แต่เมื่อมีการสลัดใบทิ้ง ปริมาณออกซิเจนจึงลดลง แต่ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากการเน่าเปื่อยสลายของรากบัว หรีอการตายของพืชใต้น้ำ มีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลให้น้ำในภาชนะที่เลี้ยงบัวเน่าเสีย ทำให้หน่อ หรือเหง้าเน่าตายไปด้วย

ฉะนั้นผู้เลี้ยงบัวประดับ จะต้องหมั่นคอยเก็บซากตะไคร่ สาหร่าย และวัชพืชน้ำ ที่ตายอยู่ในภาชนะบัวออก และเมื่อพบว่าน้ำเริ่มเน่า จะต้องถ่ายน้ำทันที (แต่ถ้าพ้นฤดูหนาวไปแล้ว บัวจะเจริญเติบโตใหม่ ไม่แนะนำให้ถ่ายน้ำบ่อย ๆ) สำหรับผู้ที่เลี้ยงบัวไม่มากนัก จะใช้วิธีเก็บหน่อหรือเหง้าเข้าตู้เย็นในชั้นที่เก็บผัก ซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 5-10 องศาเซลเซียส เมื่อผ่านพ้นเหมันต์แล้วค่อยนำออกมาปลูกใหม่ก็ได้ หากผู้เลี้ยงบัว ไม่ต้องการเก็บหัวหรือเหง้าไปแช่ ตู้เย็น ใช้ด่างทับทิมละลายน้ำในภาชนะที่ปลูกบัวให้เป็นสีบานเย็น จะพบว่า ภายใน 2 วัน ตะไคร่น้ำ และสาหร่ายที่หลงเหลืออยู่จะตายหมด จนเป็นตะกอนสีน้ำตาลที่ก้นภาชนะ ให้เก็บซากทิ้งและดูดน้ำออก จนเหลือน้ำประมาณครึ่งหนึ่งของภาชนะ จากนั้นเติมน้ำจืดลงไปให้เท่าเดิม

เชิ้ตดำขอโทษมูรินโญ่หลังพลาดแจกใบเหลืองเชส

เรียกได้ว่าสปิริตเต็มเปี่ยม เมื่อ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ เชิ้ตดำผู้ดีกล่าวขอโทษต่อ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี หลังแจกใบเหลืองให้ เชส ฟาเบรกาส ข้อหาพุ่งล้มตบตาในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เชส ถูก แมทธิว ทาร์เก็ตต์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งนักบุญยื่นขาสกัดเต็มๆในเขตโทษจนล้มลง แต่ เทย์เลอร์ กลับให้ใบเหลืองจอมทัพเลือดสเปนแทนซะงั้น โดยที่ตัวนักเตะแทบไม่อยากจะเชื่อ ทำให้หลังจบแมตช์ มูรินโญ่ ออกมาจวกการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ผิดพลาดอย่างมาก

และเมื่อ เทย์เลอร์ ได้ดูภาพรีเพลย์เหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เขาได้ยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาดจริง ที่ให้ใบเหลือง เชส ดังนั้นจึงขอเคลียร์กับ มูรินโญ่ รวมถึงแสดงสปิริตกล่าวขอโทษขอโพยต่อหน้ากุนซือสเปเชี่ยล วัน ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายออกจากสนามเซนต์ แมรี่ ไป

ล่าสุดรายงานจากฝั่งอังกฤษยืนยันมาแล้วว่ากรณีนี้ มูรินโญ่ จะไม่โดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษตั้งข้อหาเอาผิดกรณีวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ผู้ตัดสิน เทย์เลอร์ อีกด้วย

ขอบคุณผู้สนับสนุน : วิเคราะห์บอล

โรนัลโด้ ไม่น่าติดท็อป 3 บัลลงดอร์

ชาบี เอร์นานเดซ กองกลางจอมเก๋าจาก บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งศึก ลาลีกา สเปน ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีชื่ออยู่หนึ่งในผู้ท้าชิง "ฟีฟ่า บัลลงดอร์ 2014" ครั้งนี้ จากรายงานของ Goal.com เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา

กัปตันทีมชาติโปรตุเกส มีชื่ออยู่ในหนึ่ง 3 ผู้ท้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ปีนี้ร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ มานูเอล นอยเออร์ แต่ มิดฟิลด์ชาวสแปนิช มองว่ารางวัลดังกล่าวคู่ควรกับนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในศึก ฟุตบอลโลก 2014 มากกว่า

นักเตะวัย 34 ปี เผยว่า "เขาไม่ได้ทำอะไรมากเลยในฟุตบอลโลก และในปีของฟุตบอลโลกก็ควรให้โอกาสกับผู้เล่นในรายการนี้ สำหรับความคิดผมนะ ควรจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่, ฟิลิปป์ ลาห์ม และ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่"

ผีคลั่ง! สื่อดังแดนกระทิงตีข่าว "ปีศาจแดง"

ผีคลั่ง! สื่อดังแดนกระทิงตีข่าว "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมทุบคลัง 153 ล้านยูโร หรือ 120 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,600 ล้านบาท) เพื่อทุบสถิติโลก ขอซื้อ "แกเร็ธ เบล" ปีกวานรของราชันชุดขาว

"อาส" หนังสือพิมพ์ดังของสเปน รายงานว่า เบล ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ตามจีบอย่างหนักตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนต้องออกมาสยบกระแสข่าวลือ ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่ายังมีความสุขดีในถิ่น เบอร์นาเบว รวมถึงเอเย่นต์ของเจ้าตัวออกมาปฏิเสธร่วมด้วย

แต่ล่าสุด หนังสือพิมพ์ "อาส" ฉบับวันอังคารที่ผ่านมา ได้ตีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ลดละความพยายาม เดินหน้าล่าตัว เบล โดยพร้อมทุบสถิติโลกทุ่มเงินถึง 153 ล้านยูโร หรือ 120 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,240 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ซึ่งรายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า "หลุยส์ ฟาน กัล" กุนซือใหญ่ของผีแดง ปรารถนาที่จะได้ตัว เบล เข้ามาเสริมทีมอย่างมาก เนื่องจากมองว่าปีกทีมชาติเวลส์จะเป็นแข้งที่ทำให้ทีมกลับมามีลุ้นแชมป์เต็มตัวอีกครั้ง

ร่วมนำเสนอโดย www.banzeanball.com วิเคราะห์บอล

วิเคราะห์บอลวันนี้ ลักเซมเบิร์ก VS ยูเครน

สวัสดีค่ะมาอัพเดตกันอีกเหมือนเคยสำหรับยามบ่ายนี้จะมาอัพเดตวิเคราะห์บอลของรอบล่าสุดกับคู่ ลักเซมเบิร์กVS ยูเครน ซึ่งเป็นคู่ที่มีการเดิมพันยูเครนกันสูงเลยทีเดียว

สำหรับใครที่เล่นคู่นี้ต้องไม่พลาดกับการติดตามผลทีมสกอร์ของสองคู่นี้โดยเด็ดขาดโดยล่าสุดผลนั้นออกมาแล้วว่า จากสถิติการพบกันของทั้งสองทีมที่ผ่านมา ปรากฎว่าทีม ลักเซมเบิร์ก เมื่อลงเตะในบ้าน มีสถิติการเล่นที่เห็นได้ชัดว่าเล่นในบ้านไม่เอาไหนเลย

ด้านทีมที่เล่นได้ดีกว่านั้นคือฝั่งทีมเยือน ส่วนฟอร์มการเล่นช่วงหลังนี้ ลักเซมเบิร์ก ก็ยังทำผลงานในรายการนี้ได้ไม่ดีเลยในคืนนี้ ลักเซมเบิร์ก จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ยูเครน เมื่อดูจากสถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีมแล้วฝั่งที่ได้เปรียบในเกมนี้คือ ยูเครน ส่วนฟอร์มการเล่นระยะหลังนี้เจ้าบ้าน ลักเซมเบิร์ก ยังเล่นเอาแน่เอานอนไม่ได้ ด้วยขุมกำลังพลที่เป็นรองบ่อนอยู่มากและสถิติที่สู้ไม่ได้เลยนั้นทำให้ ลักเซมเบิร์ก ต้องแพ้ให้กับทีมเยือนไปอย่างราบคาบแน่นอน เพราะว่า ยูเครน กำลังทำผลงานได้อย่างมั่นใจสุด ๆจึงน่าจะบุกมาไล่ต้อนได้ไม่ยากจากแมทช์นี้

เรียกได้ว่าคู่นี้เอาใจช่วยยูเครนกันแบบสุดๆกับคะแนนนำ3 -0 นัดเดียวจอดกันเลยทีเดียวฮ่าๆ สำหรับใครที่ติดตามยูเครนก็ฟาดรางวัลงามๆกันไปเต็มๆเลยละสิเนี่ยเรียกได้ว่าทำคะแนนได้ดีและโหดมากๆเลยสำหรับนัดนี้ใครที่พลาดบอกเลยว่าอดดูทีเด็ดของยูเครนกันแบบเต็มๆ

ช้างศึก กระหน่ำ2เม็ดท้ายเกม เชือดมาเลย์ 4-3 คว้าแชมป์ซูซูกิ

ชาริล ชัปปุยส์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กลายเป็นฮีโร่ของทีมชาติไทยอีกครั้งเมื่อซัดคนละประตูช่วงท้ายเกมช่วยให้ทีมชาติไทยพลิกชะตาเอาชนะมาเลเซียด้วยสกอร์รวม 4-3 ครองจ้าวอาเซียนในรอบ ...

เวลา 19.00 น. ที่บูกิต จาลิล สเตเดี้ยม ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ระหว่าง อดีตแชมป์ 1 สมัยทีมชาติมาเลเซีย เปิดบ้านพบกับ อดีตแชมป์ 3 สมัยอย่าง ทีมชาติไทย ที่นัดแรกเป็นฝ่ายเอาชนะมาก่อน 2-0
ทีมชาติมาเลเซียเปลี่ยนทีมจากนัดแรก 1 ตำแหน่งให้ อะฟิฟ อมีรุดดีน ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ ชุโกร อะดาน แทน ฟัดฮ์ลิ ชาส เช่นเดียวกับทัพช้างศึกที่เปลี่ยนเพียง ประกิต ดีพร้อม ลงเล่นแทน มงคล ทศไกร พร้อมแนวรุกแกนหลักทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธิ์ , เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ ชาริล ชัปปุยส์ โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนค้ำแดนหน้า

คิกออฟเพียง 4 นาทีสถานการณ์ช้างศึกไม่ดีทันทีเมื่อกรรมการเป่าจุดโทษแบบค้านสายให้เจ้าถิ่นหลังมองว่า สุทธินันท์ พุกหอม ทำฟาวล์ นูรชะห์รุล อิดลัน ตะลาฮา และเป็น ซาฟิค รอฮีม ซัดประตูที่ 5 ของตัวเองให้มาเลเซียออกนำเร็ว 1-0

นาทีที่ 12 ช้างศึกได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา เติมขึ้นมาก่อนล็อคเข้าขวาแล้วซัดนอกเขตโทษ บอลพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดายก่อนนาทีที่ 14 มาเลเซียจะถอด อซามุดดีน อกิล ออกแล้วส่ง ซาฟีอี ซาลี ลงเล่นแทน

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงผู้เล่นมาเลเซียได้รับใบเหลือง 3 คนรวดทั้ง อะฟิฟ อมีรุดดีน อัมรี ยะห์ยา และ อินดรา ปุตรา แต่นาทีที่ 39 ซาฟิค รอฮีม ฉวยโอกาสจากการเคลียร์บอลพลาดของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดรม ปาดเข้ากลางให้ นูรชะห์รุล อิดลัน ตะลาฮา ซัดติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

ก่อนที่นาทีที่ 45+2 สิ่งที่แฟนบอลมาเลเซียรอคอยก็มาถึงเมื่อ นูรชะห์รุล อิดลัน ตะลาฮา เปิดบอลจากขวาเข้ากลางให้ อินดรา ปุตรา โขกเข้าไปให้ทีมจบครึ่งแรกมีสกอร์ออกนำทีมชาติไทย 2-0

กลับสู่ครึ่งหลังได้ 2 นาทีช้างศึกหวิดได้ประตูไล่ขึ้นมาเมื่อ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ หลุดเข้าเขตโทษแล้วล็อคเข้าซ้ายก่อนซัดไปแฉลบ อะฟิฟ อมีรุดดิน เฉี่ยวเสาออกหลังและจังหวะต่อเนื่อง สุทธินันท์ พุกหอม ทะยานโขกลูกเตะมุมยังติดเซฟ ฟาริซอล มัรลิยาส

แต่แล้วนาทีที่ 58 แฟนบอลในบูกิต จาลิล เรือนแสนก็ได้เฮโลกันลั่นเมื่อ ซาฟิค รอฮีม ปั่นฟรีคิกระยะทำการณ์ผ่านมือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เข้าไปอย่างเด็ดขาดให้ มาเลเซียหนีห่างเป็น 3-0

นาทีที่ 61 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แก้เกมคนแรกโดยส่ง ศราวุฒิ มาสุข ลงเล่นแทน ประกิต ดีพร้อม และนาทีที่ 67 อดิศักดิ์ ไกรษร ได้ซัดด้วยซ้ายบนเส้น 18 หลาแฉลบ อะฟิฟ อมีรุดดีน ออกหลัง

จากนั้นทีมชาติไทยมานะบากบั่นบุกทวงประตูคืนอย่างหนักกระทั่งนาทีที่ 82 ก็ได้ประตูสำคัญไล่มาเป็น 1-3 จากจังหวะที่ ชาริล ชัปปุยส์ ซ้ำลูกยิงฟรีคิกของ สารัช อยู่เย็น เข้าไปอย่างเด็ดเดี่ยว ทำให้สกอร์รวมกลับมาเท่ากัน 3-3

และนาทีที่ 86 แฟนฟุตบอลชาวไทยก็ได้เฮกันทั้งประเทศจากจังหวะโต้กลับที่ ศราวุฒ มาสุข จ่ายเข้ากลางให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ก่อนไหลคืนให้ ชนาธิป สรงกระสินธิ์ กดด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปให้ช้างศึกได้อเวย์โกลไล่มาเป็น 2-3 ก่อนจบเกมทำให้ทีมชาติไทยเอาชนะมาเลเซียด้วยสกอร์รวม 4-3 ครองจ้าวอาเซียนสมัยที่ 4 หลังรอมานาน12ปี


รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
ทีมชาติมาเลเซีย : ฟาริซอล มัรลิยาส (GK) - ชุโกร อะดาน ,อะฟิฟ อมีรุดดีน ,คุนาลัน ,ซูเบร อัซมี - ซาฟิค รอฮิม ,บัดรี รอฎี ,อซามุดดีน อกิล ,อัมรี ยะห์ยา ,อินดรา ปุตรา - นูรชะห์รุล อิดลัน ตะลาฮา

ทีมชาติไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK) , พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา , สุทธินันท์ พุกหอม , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดรม – สารัช อยู่เย็น , ชาริล ชัปปุยส์ – เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ , ชนาธิป สรงกระสินธิ์ , ประกิต ดีพร้อม – อดิศักดิ์ ไกรษร